หน้าเว็บ

Gentle Monster Vs Rayban

Just Click

Youtube

Gentle Monster Blends Art with Commercialism

 

We’ll be honest, we hadn’t heard of this brand but as we walked through the trendy, hipster-esque streets of Garosu-gil, we were told by our friend, and impromptu-guide, of their popularity and some of the unique aspects of the company – like their business model of “innovative experiment” and their attention to their showrooms and displays. It should also be noted that their prices are considered more ‘reasonable’ by some as you can find a pair of these trendy, vintage-inspired modern shades for as low as 200,000 won ($170 USD). Not what we would consider cheap, but what most who are looking for designer brands would call affordable.
While in Seoul, you may look to find a tourist-worthy destination like an art gallery or museum and you may also look to do some shopping. At the showrooms for Gentle Monster, you can do both. We stopped by the Sinsa-dong location and got much more than we expected when we were told we’d be visiting the showroom for a brand of designer sunglasses!
If you’re in Seoul, a visit to one, or more, of these showrooms is a unique experience offering you a journey into the contemporary art scene of Korea and also letting you participate in one of the favourite activities of tourists to Seoul – shopping! Don’t forget to climb to the top-floor-turned-cafe for some refreshments.

http://onemoderncouple.com/the-gentle-monster-of-koreas-fashion-scene/?utm_source=facebook&utm_medium=social&utm_campaign=SocialWarfare

Gentle Monster อันดับ 1 ใน 3 แว่นตาแบรนด์ดังที่กำลังมาแรง

เอาใจเหล่าแฟชั่นนิสต้าที่ชื่นชอบเทรนด์แฟชั่นสไตล์เกาหลีกับแบรนด์แว่นตาสัญชาติเกาหลีที่กำลังมาแรงในเหล่าเซเลบ แน่นอนว่า แว่นตา มักจะเป็นไอเท็มยอดฮิตสำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้าหลายๆ คน เพราะสามารถใส่ได้หลายโอกาส มิกซ์แอนด์แมทช์กับชุดได้หลากหลาย ไหนจะยังกันแดดได้อีก ใส่เมื่อไหร่ก็ดูดี!

วันนี้เราคัดแบรนด์ แว่นตา สัญชาติเกาหลีมา 3 แบรนด์ด้วยกัน เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายน่าจะเคยได้ยินชื่อแบรนด์เหล่านี้กันมาบ้างแล้ว แว่นตาทั้ง 3 แบรนด์ที่เรานำมาแนะนำกันวันนี้ต่างมีดีไซน์ที่โดดเด่น มีสีสันให้เลือกมากมาย และยังมีลูกเล่นน่ารักๆ อีกด้วย มีแบรนด์อะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ!! 

1. Gentle Monster

เริ่มกันที่แบรนด์สุดเก๋ มีความเรียบหรู และดูเท่เอาซะมากๆ เชื่อว่าถ้าหากใครที่ติดตามกระแสแฟชั่นอยู่เสมอคงไม่พลาดที่จะรู้จักชื่อแบรนด์เท่ๆ อย่าง Gentle Monster แน่นอน แว่นตา แบรนด์เกาหลีสุดฮิตทั้งกับเซเลบฝั่งฮอลลีวูดและฝั่งเอเชีย Gentle Monsterมีสาขากว่า 30 สาขาทั่วโลก โดยดีไซเนอร์มีคอนเซ็ปต์แบรนด์ที่เน้นดีไซน์ล้ำสมัย มีความแปลก และให้ความรู้สึกแบบอวกาศ (Space)




เป็นแบรนด์ที่ฮอตฮิตท่ามกลางเหล่าเซเลบเมืองไทยจริงๆ สำหรับ Gentle Monster 

Info.

Website: gentlemonster

2. Stealer

มาต่อกันที่ Stealer เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ แว่นตา สัญชาติเกาหลีที่เรายกมาแนะนำกันวันนี้ Stealer มีแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในวัตถุดิบและมุ่งมั่นตีโจทย์ในการออกแบบ แว่นตา โดยใช้โลหะ Stealer ได้ให้ความสำคัญกับความโค้งมนและองศาของการออกแบบโดยเฉพาะกับคนเอเชีย ดังนั้น เรื่องของแป้นจมูกหรือขา แว่นตา จะหมดกังวลไปได้เลยว่าจะไม่พอดีหรือไม่รับกับหน้าของเรา Stealer จึงเป็นที่นิยมในหมู่แฟชั่นนิสต้า ทั้งที่เกาหลีและไทย



Info.

Instagram: stealereyewear

3. grafik:plastic

และสุดท้าย grafik:plastic เป็นแบรนด์ แว่นตา สุดคูลจากเกาหลีกับรูปทรงป๊อบๆ ที่มีการออกแบบกรอบแว่นหลากหลายสีสัน ขาแว่นสามารถถอดแยกส่วนแล้วนำไปมิกซ์แอนแมตช์กับกรอบอันอื่นได้ เก๋สุดๆ นอกจากนี้ grafik:plastic ไม่ได้เน้น Brand Ambassador ที่เป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นมากเท่าคนธรรมดาๆ ที่เข้าถึงได้ง่ายๆ และปัจจุบัน grafik:plastic ก็ได้กำลังขยายสาขาไปทั่วโลกแล้ว

Info.

Facebook: grafikplastic
Website: grafikplastic

For Study


แว่นกันแดดปลอม อันตรายที่ใกล้ดวงตา

โลกเราทุกวันนี้มีแสงแดดร้อนแรงขึ้นทุกวันๆ การที่ต้องใช้สายตาเผชิญหน้ากับแสงแดดจ้าทุกวัน ย่อมเสี่ยงกับการเป็น ตาต้อ ม่านตา กล้ามเนื้อตาเสื่อมสภาพ และที่สำคัญคุณรู้หรือไม่ว่า..  "การใส่แว่นกันแดดปลอมนั้นเป็นอันตราย อาจทำให้เราต้องสูญเสียดวงตาไป !! "
 

เคยไหมค่ะ ที่ใส่แว่นกันแดดแล้ว มึนหัว ??

           ทุกวันนี้พฤติกรรมของการสวมแว่นกันแดดเปลี่ยนไป เป็นการสวมใส่เพื่อเสริมบุคลิก เป็นแฟชั่นประดับกาย หรือสวมใส่เพื่อให้เข้ากับแฟชั่นเสื้อผ้า หากผู้สวมใส่ไม่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย  ต่อไปนานๆ แล้ว อาจต้องนอนร้องไห้เสียใจไปตลอดชีวิต เพราะแว่นกันแดดคุณภาพต่ำที่นิยมสวมใส่กัน เมื่อใส่ไปนานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อตาหรือประสาทตาล้า บางรายอาจเกิดอาการข้างเคียงวิงเวียนศีรษะ


           เพราะฉะนั้นไม่ควรประหยัดในสิ่งที่จำเป็น ควรเลือกใช้แว่นกันแดดที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ทั้งนี้เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ควรดูแลเอาใจใส่และถนอมไว้ใช้งานให้นานเท่านาน


           สำหรับแว่นกันแดดที่เหมาะกับคนที่ชอบใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้ง เป็นเวลานานๆ ควรเลือกแว่นกันแดดให้เหมาะสมกับการใช้งาน ที่กล่าวเช่นนี้เพราะคุณภาพของแว่นกันแดดแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ยิ่งราคาถูกเท่าไหร่ ยิ่งทำร้ายสุขภาพตามากขึ้นเท่านั้น เพราะวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ประกอบเป็นแว่นกันแดดนั้น ไม่ได้มาตรฐาน คุณภาพต่ำ เลนส์แว่นกันบางอันทำจากพลาสติก ติดแผ่นฟิล์มที่ไม่ได้คุณภาพ บ้างทำจากกระจกธรรมดา ซึ่งเมื่อเวลาใช้มองภาพอาจทำให้ภาพที่เห็นผิดเพี้ยนไปจากความจริง


           เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดจ้า เช่น ขับรถในเวลากลางวัน เล่นกีฬาหรือทำงานกลางเปลวแดด ควรเลือกแว่นกันแดดชนิด โพลารอยด์ ซึ่งมีส่วนประกอบของ โพลาไรซ์เพลต ( Polarized ) ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันแสงที่สะท้อนผ่านเลนส์ ไม่ทำให้สายตาพร่ามัว และยังช่วยตัดแสงที่ทำมุม 45 องศาที่เข้ามากระทบกับดวงตาได้ดีอีกด้วย
           นอกจากนี้ยังช่วยตัดแสงทำให้ไม่เห็นภาพลวงตา ที่เกิดการหักเหของแสงบนพื้นถนนและยังช่วยลดความเข้มของแสง ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อตาและประสาทตาเกิดอาการอ่อนล้า รวมทั้งช่วยไม่ให้เกิดอาการง่วงนอน ขณะที่สายตาจ้องมองฝ่าเปลวแดดติดต่อกันเป็นเวลานาน


           ปัจจุบันแว่นกันแดดยังมีแบบสีชาซึ่งเหมาะสมกับสภาพแดดจ้า โดยเฉพาะแดดชายทะเล แดดบนภูเขา แว่นกันแดดที่มีกระจกเลนส์สีนี้จะช่วยให้มองเห็นโครงร่างต่างๆ ของวัตถุได้อย่างชัดเจนและในวันที่ท้องฟ้าขมุกขมัวมีหมอกจัด แว่นชนิดนี้ยังทำหน้าที่เสมือนไฟตัดหมอกคล้ายกับไฟของรถยนต์ ทำให้ผู้สวมใส่มองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้อย่างชัดเจนขึ้น


           ก่อนเลือกซื้อแว่นกันแดดสักอันอย่าลืมเลือกซื้อแว่นที่มีคุณภาพ วิธีที่ดีที่สุดควรดูจากใบแจ้งคุณภาพแว่นว่าทำจากวัสดุชนิดใด มีคุณสมบัติช่วยลดความเข้มของแสงได้หรือไม่ และที่สำคัญช่วยกรองแสงได้กี่เปอร์เซ็นต์ เพียงเท่านี้ ไม่ว่าแดดจะร้อนส่องแสงแรงขนาดไหน คุณก็สามารถปกป้องสายตาให้รอดพ้นจากอันตรายที่มากับแสงแดดได้ และแว่นกันแดดก็จะไม่กลายเป็นภาระให้กับผู้สวมใส่




For Study

ที่มา

ใครคิดค้น แว่นกันแดด


        ว่ากันว่าแว่นกันแดดมีวิวัฒนาการมาจากการที่จักรพรรดินีโร แห่งอาณาจักรโรมัน ทรงชื่นชอบการทอดพระเนตรการต่อสู้ระหว่างนักสู้และสิงโต ซึ่งเป็นการแสดงเพื่อล่ารางวัลที่ได้รับความนิยมกันในสมัยนั้น โดยพระองค์จะทอดพระเนตรการแสดงกลางแจ้ง ผ่านอัญมณีที่เจียระไนแล้ว คล้ายมรกต เพื่อเป็นการกรองแสงอีกชั้นหนึ่ง
       
        ทว่า แว่นกันแดดเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในประเทศจีน ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 หรืออาจจะก่อนหน้านั้น ตัวเลนส์ทั้ง 2 ชิ้นของแว่นมีลักษณะแบนเหมือนกระจกบานหน้าต่าง ทำจากแร่ควอทซ์หรือหินเขี้ยวหนุมานสีเขม่า แม้จะไม่ได้มีการดัดแปลงแก้ไขให้เป็นเลนส์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็สามารถปกป้องดวงตาจากแสงจ้าได้ ตามบันทึกในเอกสารสมัยใหม่ของจีน อธิบายการใช้แว่นในสมัยนั้นไว้ว่า ผู้พิพากษาในศาลจะใช้แว่นเพื่อปิดบังสีหน้าแววตา ขณะที่สอบปากคำพยานในศาล เพื่อขจัดความลำเอียง ที่อาจทำให้การพิจารณาคดีไม่โปร่งใส
       
        ต่อมาในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 เจมส์ อีสคัฟ ชาวอังกฤษได้ทดลองย้อมสีเลนส์ของแว่นตาด้วยสีฟ้า และสีเขียว โดยเชื่อว่า จะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องในการมองเห็นผ่านแสงอาทิตย์ได้ แต่ไม่ได้คำนึงถึงการป้องกันดวงตาจากแสงอาทิตย์ที่กระทบโดยตรงกับดวงตา ซึ่งยังไม่เป็นแว่นกันแดดที่สมบูรณ์
       
        ในปี 1929 แซม ฟอสเตอร์ เป็นผู้นำการผลิตแว่นกันแดดครั้งละมากๆ และมีราคาถูก เป็นรายแรกในสหรัฐฯ ซึ่งเขาได้ตีตลาดแถบชายหาด ของเมืองแอตแลนติก ซิตี้ ในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นที่แรก ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ฟอสเตอร์ แกรนท์” ของเขาเอง
       
        อย่างไรก็ดี เลนส์ของแว่นกันแดดที่ผลิตกันก่อนหน้านี้ ยังเป็นเลนส์ที่ไม่สามารถบังคับคลื่นแสงให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน จนกระทั่งปี 1936 เอ็ดวิน เอช แลนด์ เป็นผู้ริเริ่มทดลอง เปลี่ยนเลนส์ของแว่นกันแดด เป็นแผ่นโพลารอยด์ ซึ่งเป็นแผ่นกรองแสงแบบโปร่งใส ที่เขาได้จดสิทธิบัตรไว้ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นแม่แบบของแว่นกันแดดในปัจจุบัน
       
        พัฒนาการของแว่นกันแดดอาจจะยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ โดยเมื่อปี 2004 ผู้ผลิตแว่นกันแดดยี่ห้อดัง “Oakley”ของสหรัฐฯ ได้พัฒนาแว่นกันแดดที่มีเครื่องเล่นดิจิตอลในตัว ในอนาคตใครจะไปรู้ว่าแว่นกันแดดธรรมดาๆ คันหนึ่งอาจจะมีลูกเล่นให้บรรดาผู้ที่ชื่นชอบได้ฮือฮากันอีกก็ได้ 


อันตรายของแสงแดดต่อดวงตา

เป็นที่ทราบกันดีว่าแสงแดด ประกอบด้วยรังสีอัลตร้าไวโอเลต (ultraviolet) หรือที่เราเรียกสั้นๆว่า รังสียูวี (UV rays) ซึ่งเป็นคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่มองเห็นด้วยตา กล่าวคือ แสงที่มองเห็นด้วยตามีความยาวคลื่น 400-700 นาโนเมตร รังสียูวีจึงมีความยาวคลื่นสั้นกว่า 400 นาโนเมตร มีพลังงานสูง และไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
  1. รังสียูวี ซี (UV C rays,100-280 nm) เป็นรังสียูวีที่มีพลังงานสูงที่สุดและสามารถก่อให้เกิดอันตรายกับผิวหนังและดวงตาได้มากที่สุด โอโซนในชั้นบรรยากาศสามารถกรองไว้ได้หมด แต่ปัจจุบันชั้นโอโซนในบรรยากาศกำลังถูกทำลายมากขึ้น จึงทำให้รังสีชนิดนี้อาจทะลุผ่านลงมาสู่พื้นผิวโลกมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
  2. รังสียูวี บี (UV B rays, 280-320 nm) เป็นรังสีที่มีพลังงานน้อยกว่ารังสียูวี ซี ถูกกรองโดยชั้นโอโซนได้บางส่วน รังสีบางส่วนที่ทะลุผ่านลงมายังโลก ในปริมาณน้อยจะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน (melanin) ทำให้สีผิวคล้ำขึ้น ส่วนรังสีในปริมาณมากจะทำให้ผิวหนังไหม้ เกิดจุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น และเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งผิวหนัง
  3. รังสียูวี เอ (UV A rays, 320-400 nm) เป็นรังสีที่มีพลังงานต่ำกว่า 2 ชนิดแรก แต่สามารถทะลุผ่านกระจกตา เข้าไปสู่เลนส์ตาและจอตาได้ การได้รับรังสีชนิดนี้เป็นปริมาณมากอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดต้อกระจกและบางการวิจัยพบว่าอาจมีผลต่อการเกิดจุดภาพชัดเสื่อมด้วยเช่นกัน
โดยปกติเราสามารถปกป้องผิวหนังจากแสงแดดด้วยการใช้ครีมกันแดด แต่ทราบหรือไม่ว่า แม้ดวงตาของเราจะคิดเป็นเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ผิวทั่วร่างกาย แสงแดดก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อส่วนต่างๆของดวงตาได้มากมาย ดังนั้น เพื่อปกป้องดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะที่บอบบางให้ปลอดภัยจากอันตรายภายนอกรวมทั้งแสงแดด ดวงตาของเราจึงถูกสร้างให้ถูกห่อหุ้มด้วยกระดูกเบ้าตา มีเปลือกตา ขนคิ้วและขนตาเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้การหดแคบลงของรูม่านตา การหลับตาหรือการหรี่ตา ก็เป็นอีกกลไกหนึ่งที่ช่วยปกป้องดวงตาตามธรรมชาติเมื่อถูกกระตุ้นด้วยแสงที่สามารถมองเห็นด้วยตา แต่จะไม่ถูกกระต้นด้วยรังสียูวี ดังนั้น แม้ในวันที่ไม่มีแสงแดดจ้า เราจะยังคงได้รับรังสียูวีในปริมาณมากอยู่ กล่าวคือ ประสิทธิภาพของกลไกป้องกันดวงตาตามธรรมชาติจึงอาจมีข้อจำกัด

แสงแดดเป็นอันตรายต่อดวงตาอย่างไร

เปลือกตา มีความเปลี่ยนของสีผิว จุดด่างดำ ริ้วรอยรอบดวงตา นอกจากนี้ยังมีรายงานพบว่ามะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณเปลือกตาบางขนิด เช่น basal cell carcinoma squamous cell carcinoma ตลอดจน malignant carcinoma อาจเกี่ยวเนื่องมาจากการได้รับแสงแดดอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน
เยื่อบุตา มีการเสื่อมของเยื่อบุตาบริเวณที่ชิดกับขอบตาดำ เรียกว่า ต้อลม ซึ่งเกิดจากการระคายเคืองจากลม ฝุ่น รังสียูวี หากต้อลมลุกลามเข้าไปในตาดำ เรียกว่า ต้อเนื้อ ไม่เพียงทำให้เกิดความไม่สวยงาม แต่อาจรบกวนการมองเห็น หรือหากมีการอักเสบ จะทำให้มีอาการปวดและระคายเคืองได้
กระจกตา การอักเสบเฉียบพลันของกระจกตา ทำให้มีอาการปวดตามากน้ำตาไหล มักจะเกิดอาการประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังจากได้รับรังสียูวีปริมาณมาก เช่น แสงสะท้อนจากหิมะ หรือรังสียูวีจากการเชื่อมโลหะโดยไม่สวมใส่แว่นป้องกัน อาการมักจะเป็นอยู่ชั่วคราวประมาณ 1-2 วัน
เลนส์ตา การเกิดต้อกระจก แม้ว่าต้อกระจกจะเกิดจากการเสื่อมตามวัย แต่พบว่าการได้รับรังสียูวีทำให้เป็นต้อกระจกมากขึ้นได้ ในแต่ละปี มีประชากรกว่า 16 ล้านคนทั่วโลกตาบอดจากต้อกระจก จากรายงานขององค์การอนามัยโลกพบว่าประมาณ 20 เปอร์เซนต์ของต้อกระจกอาจมีสาเหตุมาจากการได้รับรังสียูวีมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้
จอตา ในคนหนุ่มสาวเลนส์ตาที่ยังใสอยู่ไม่สามารถดูดซับรังสียูวีไว้ได้หมด จึงมีโอกาสที่รังสียูวีจะเข้าไปทำลายจอตาทำให้เกิดจอตาเสื่อมได้ แม้ว่าในจอตาของเราจะมีสารหรือเม็ดสีตามธรรมชาติที่ช่วยปกป้องจอตา แต่สารเหล่านี้จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้กระบวนการป้องกันจอตาตามธรรมชาติลดลงและเกิดการเสื่อมของจอตาได้ง่ายขึ้น เมื่อได้รับรังสียูวี นอกจากนี้บางการศึกษาเชื่อว่ารังสียูวีน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะจุดรับภาพเสื่อมในผู้สูงอายุ (age-related macular degeneration, AMD)

แสงสีฟ้า คืออะไร

ในปัจจุบันมีการตื่นตัวเกี่ยวกับแสงสีฟ้ากันอย่างกว้างขวางขึ้น จริงๆแล้วแสงสีฟ้า (blue light or high-energy visible radiation) เป็นแสงที่มองเห็นด้วยตา มีช่วงความยาวคลื่นระหว่าง 381-500 นาโนเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงคลื่นรังสียูวี แสงสีฟ้าปริมาณสูงสามารถทำลายเซลล์อย่างถาวรในบางคน และหากได้รับแสงสีฟ้าเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดจุดภาพชัดเสื่อม ซึ่งเป็นจุดสำคัญในจอตา โดยเซลล์จะถูกทำลายอย่างช้าๆและทำให้สูญเสียการมองเห็นส่วนกลางอย่างถาวรในที่สุด การศึกษา European study ตีพิมพ์ในวารสาร Archives of Ophthalmology ฉบับเดือนตุลาคม 2008 พบว่ากลุ่มคนที่มีระดับวิตามินซีและสาร antioxidant อื่นๆในเลือดต่ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดจอตาหรือจุดภาพชัดเสื่อมจากแสงสีฟ้า
ในชีวิตประจำวันเราได้รับแสงสีฟ้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งจากคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือจากอุปกรณ์บางอย่าง เช่น เลเซอร์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิด อย่างไรก็ตามเราสามารถป้องกันแสงสีฟ้า โดยการใช้เลนส์ “Blue blocker” ซึ่งมักจะเป็นเลนส์สีเหลือง หรือสีส้ม ซึ่งโดยทั่วไปเลนส์ชนิดนี้ไม่ได้ลดปริมาณแสงสีฟ้าที่จะผ่านเข้าสู่ดวงตา แต่จะช่วยเปลี่ยนแปลงการปรากฎของแสงสีฟ้าและสีเขียว เนื่องจากแสงสีฟ้าอยู่ในช่วงคลื่นที่ใกล้เคียงกับรังสียูวีมาก การใช้เลนส์ “Blue blocker” จะสามารถช่วยป้องกันรังสียูวีได้ด้วย
ที่มา : http://www.bangkokhealth.com/health/article/อันตรายของแสงแดดต่อดวงตา-2370



  1. สามารถป้องกันทั้งรังสียูวีเอและบีได้ 99-100 เปอร์เซนต์ โดยต้องมีป้ายระบุชัดเจน ทั้งนี้ประสิทธิภาพการป้องกันรังสียูวีไม่ได้ขึ้นอยู่กับสีหรือระดับความเข้มของเลนส์
  2. เลนส์ควรมีขนาดใหญ่และกว้างสามารถปิดบังดวงตาจากแสงแดดได้ทุกองศา
  3. นอกจากจะป้องกันรังสียูวีแล้ว แว่นกันแดดที่ดี ควรมีคุณสมบัติอื่นๆร่วมด้วย ได้แก่
    • Blue-blocking lenses ช่วยให้เห็นวัตถุไกลๆได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในหิมะหรืออากาศขุ่นมัว เลนส์ที่สามารถป้องกันแสงสีฟ้าได้ทั้งหมด คือ สีเหลืองอำพัน แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ใช้เลนส์สีเทาในการขับรถเพื่อให้เห็นแสงสีสัญญาณไฟจราจรได้อย่างถูกต้อง
    • Polarized lenses ช่วยตัดแสง ลดการเกิดแสงแตกกระจาย เช่น แสงแดดสะท้อนจากหิมะหรือผิวน้ำ
    • Photochromic lenses สามารถปรับความเข้มของสีเลนส์ได้ตามปริมาณแสงที่เปลี่ยนแปลง
    • Polycarbonate lenses ช่วยป้องกันการกระแทกหรืออุบัติเหตุที่ดวงตา
    • Mirror-coated lenses ช่วยลดแสงที่มองเห็นด้วยตา
    • Gradient lenses มี 2 ชนิด คือ single-gradient lenses ซึ่งมีสีเข้มด้านบน สีอ่อนด้านล่าง ช่วยลดแสง

บทความสุขภาพตา โดย พญ.วีรยา พิมลรัฐ

ที่มา : http://www.bangkokhealth.com/health/article/อันตรายของแสงแดดต่อดวงตา-2370

วิธีเลือกเลนส์แว่นกันแดด






นอกจากจะเป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่ยอดฮิตแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยคือ ช่วยในการป้องกันสารพัดสิ่ง ทั้งกันแดด กันฝุ่น กันลม หรือกระทั่งเชื้อโรคที่มากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง งั้นเราต้องมาถามกูรูแว่นดำซะแล้ว ว่าแว่นกันแดดนั้นมีสารพัดอย่างไรบ้าง


    

 เลนส์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 3 ชนิด คือ 

  • เลนส์พลาสติก (CR 39 Plastic) ทำจากวัสดุ CR-39 เป็นเลนส์พลาสติกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด เนื่องจากทนแรงขูดขีดได้ดีทั้งยังช่วยกรองรังสียูวีและอินฟราเรดได้ดีอีกด้วย อาทิ Ray Ban Wayfarer Jackie OHH  คุณปรารถนา พีรานนท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ แว่นกันแดดบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว

  • เลนส์แก้ว (Glass) จะมีความใสมากกว่าเลนส์พลาสติก และทนแรงขูดขีดได้ดีกว่า แต่ก็จะมีน้ำหนักมากกว่าเลนส์พลาสติก รวมทั้งยังแตกได้ด้วย อาทิ Wayfarer  RB 3384 Aviator

  • เลนส์พลาสติกชนิดโพลีคาร์บอเนต (Poly-carbonate Plastic) จะมีน้ำหนักเบาที่สุด ทนทานต่อแรงกระแทกได้ดีมาก จึงมักใช้ในการทำแว่นสำหรับกีฬาหรือกิจกรรมโลดโผน เพราะให้ความปลอดภัยจากอันตรายต่อดวงตาได้ดีที่สุด



  วัสดุที่ใช้ทำเลนส์ทั้ง 3 ชนิดนี้สามารถเลือกสวมใส่ในขณะที่ขับรถได้ทุกสภาพอากาศขึ้นอยู่กับความชอบ และสไตล์ของผู้สวมใส่และแบบที่นำเสนอตามแฟชั่น


       

       ประโยชน์ของสีเลนส์

 ส่วนความเข้มของสีเลนส์และประโยชน์ของการใช้งานนั้น ความเข้มแบบเต็มเลนส์ เป็นการย้อมสีในระดับที่มีความเข้มเท่ากันทั้งเลนส์ ซึ่งสามารถจะช่วยป้องกันแสงได้ในปริมาณที่เท่ากันทุกส่วนของเลนส์เหมาะกับการสวมใส่ในบริเวณที่มีแดดจ้า หรือกลางแจ้ง เช่น การขับรถกลางแจ้ง ท่องเที่ยวชายทะเล และกิจกรรมกลางแจ้ง
 
       
ความเข้มแบบไล่สี เป็นการย้อมสีแบบไล่ระดับจากความเข้มมากไปหาความเข้มน้อยจากบนลงล่างเหมาะกับการสวมใส่ในบริเวณที่มีแดดไม่จัดมากจนเกินไป หรือช่วงที่มีเมฆครึ้มปกคลุมเพื่อลดการสะท้อนของแสงและรังสี UV อาทิการขับในเวลากลางคืน หรือระหว่างฝนตก การแข่งกีฬาในร่ม และการสวมเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าสู่ดวงตา 
       
       เลนส์สีเทา : ช่วยกรองแสง ตัดแสงจ้าเมื่ออยู่กลางแจ้ง มีข้อดีคือไม่ทำให้สีของวัตถุเปลี่ยนแปลง
 
       
เลนส์สีน้ำตาล : ทำให้มองสีและแสงธรรมชาติได้ชัดเจนขึ้น คมชัดขึ้น เพิ่มวิสัยทัศน์ในการมอง โดยเฉพาะในการขับขี่รถยนต์หรือจักรยานยนต์
 
       
เลนส์สีเขียว : กรองแสง ตัดแสงได้เท่ากับ Gray Lens ช่วยให้สบายตา โดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้ง 
       
       เลนส์สีเหลือง : เพิ่มแสง เพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองมากขึ้นในช่วงเวลาเย็น กลางคืน
       
       ->สีเลนส์แบบไหนเหมาะขับรถ

 ตามหลักมาตราฐานขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้กำหนดไว้ว่า แว่นกันแดดที่ได้มาตราฐานในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet) นั้นอย่างน้อยต้องสามารถป้องกัน 95% ของ UV-A และ 99% ของ UV-B ไม่ให้ผ่านเลนส์เข้าสู่ดวงตาได้
 
       
มีเคล็ดลับการเลือกแว่นกันแดดเพื่อสวมใส่ในการขับรถ และการดูแลรักษาแว่นกันแดด ซึ่งแว่นกันแดดที่ได้มาตรฐานนั้นจะต้องสามารถกรองรังสียูวีบี (UVB) ซึ่งเป็นรังสีที่อยู่ในย่านความถี่ 280-315 นาโนเมตรได้ และป้องกันปริมาณรังสียูวีเอ (UVA) ที่อยู่ในย่านความถี่ 100-280 นาโนเมตร ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศที่มีแดดจ้า หรือมีเมฆหมอกปกคลุม
       
       ดังนั้นวิธีการเลือกสีเลนส์ให้เหมาะกับการขับรถ หากเป็นกิจกรรมการขับรถกลางแจ้ง ควรเลือกเลนส์สีเขียวและสีเทาเพราะจะช่วยในการมองเห็นที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด นอกเหนือจากการลดความจ้าของแสงในขณะขับรถ 

       
       ส่วนกิจกรรมขับรถในตอนแสงน้อย หรือตอนกลางคืน ควรเลือกเลนส์ สีฟ้าใส สีใส และสีเหลือง จะช่วยป้องกันแสงสะท้อนจากไฟส่องถนน โดยเฉพาะการขับรถในเวลาอากาศมัวท้องฟ้ามืดครึ้มเลนส์ที่เหมาะสมที่สุดคือเลนส์สีเหลืองเพราะจะช่วยลดความสว่างของแสงมากที่สุด ทำให้ทัศนวิสัยในการขับรถดีขึ้นสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล 


ที่มา : http://www2.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000042390

แว่นกันแดดกับยูวี

 ปัจจุบัน แว่นกันแดดมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะใส่แล้วสบายตาพร้อมทั้งช่วยเสริมบุคลิกภาพ เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ แว่นกันแดดสามารถรักษาสุขภาพตาได้ในระยะยาว
     จากการวิจัย พบว่าการโดนแสงแดดจัดนานๆ ในระยะยาวมีโอกาสเกิดโรคตาตามมา เช่น ต้อลมและต้อเนื้อ ต้อกระจก ตลอดจนโรคจอประสาทตาเสื่อม เนื่องมาจากผลของรังสีอุตร้าไวโอเล็ต (UV) ในแสงแดด
      มีหลักฐานพิสูจน์อย่างแน่ชัด คือในปี ค.ศ. 1988 จักษุแพทย์กลุ่มหนึ่งได้ทำการศึกษาวิจัยชาวประมง 838 คน ขณะออกทะเลเพื่อประกอบอาชีพ พบว่ากลุ่มที่มิได้ป้องกันแสงแดด จะเป็นต้อกระจกมากเป็นสามเท่าของชาวประมงที่สวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกปีกกว้าง จักษุแพทย์ ในปัจจุบันจึงแนะนำให้สวมแว่นกันแดดทุกครั้ง หากต้องออกกลางแดดเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเราอยู่ในแนวใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีแดดจัดกว่าส่วนอื่นของโลก



  • เลนส์ที่สามารถกรองรังสีได้



     เป็นคุณสมบัติอย่างแรกที่ต้องพิจารณาเลือกซื้อแว่นกันแดด แม้ว่าเลนส์ธรรมดาทั้งพลาสติกและแก้วจะสามารถกรองรังสี UV ได้บางส่วนแล้วก็ตาม แต่คุณสมบัติดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเติมสารเคมีที่มีคุณสมบัติดูดซับรังสีไว้ในเนื้อเลนส์ขณะผลิตหรือฉาบไว้ที่ผิวเลนส์ภายหลัง เลนส์ของบางบริษัทอาจระบุไว้ว่า สามารถกรองรังสี UV ได้ถึงขนาดความยาวคลื่น 400 นาโนเมตร หมายถึง สามารถกรองรังสีได้ 100% นั่นเอง








  • เลนส์โพลาไรซ์ (POLARIZED LENS)



     มีคุณสมบัติสามารถตัดแสงสะท้อนจากผิวน้ำหรือถนนได้ ทำให้สบายตามากขึ้นเมื่อใช้ขณะเล่นกีฬาทางน้ำหรือขับรถ แต่ไม่มีคุณสมบัติในการกรองรังสี UV อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีเลนส์โพลาไรซ์หลายยี่ห้อที่ฉาบสารเคมีเพื่อดูดซับรังสี UV ไว้ด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เลนส์ที่เลือกซื้อนั้นมีคุณสมบัติดังกล่าวด้วยหรือไม่

  • เลนส์เปลี่ยนสี (PHOTOCHROMIC GLASSES)



     มีคุณสมบัติเปลี่ยนสีได้โดยอัติโนมัติตามระดับความเข้มของรังสี UV คือ เปลี่ยนเป็นสีชาเมื่ออยู่ในที่สว่าง และใสขึ้นเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย การเปลี่ยนสีเข้มจะเกิดขึ้นเต็มที่โดยใช้เวลาประมาณครึ่งนาที ในขณะที่กว่าจะกลับใสเป็นปกติจะต้องใช้เวลาถึง 5 นาที แม้ว่าแว่นชนิดนี้จะกรองรังสี UV ได้ดี แต่ปัญหาจากการใช้เวลานานเกินไปในการปรับสีเมื่อเข้าในที่สลัว และสีของเลนส์ก็ไม่ถึงกับใสเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่เป็นที่แพร่หลาย


คุณสมบัติที่ดีของแว่นกันแดด
  


มีความทึบเข้มของเลนส์ 


     เลนส์บางชนิดย้อมสีเข้มมาก แสงผ่านได้เพียง 2-3ในขณะที่เลนส์บางชนิดให้แสงผ่านได้ถึง 50%ฉะนั้นการเลือกซื้อ จึงจำเป็นต้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน เลนส์ที่ย้อมสีปานกลางจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องอยู่กลางแสงแดดจัดบ่อยๆ ก็ควรเลือกเลนส์ที่เข้มและกรองแสงได้มากแต่ต้องระลึกเสมอว่า ชนิดและความเข้มของสีที่ใช้ย้อมเลนส์ไม่ได้มีผลในการป้องกันรังสี UVเลย เพียงแต่ลดความสว่างจ้า ทำให้สบายตาขึ้นเท่านั้น

  


คุณภาพของการฝนเลนส์ 


     นอกจากคุณสมบัติที่ต้องป้องกันรังสีได้แล้ว การเลือกเลนส์ที่ผ่านการขัดฝนมาอย่างดี เป็นคุณสมบัติที่ควรคำนึงถึงอย่างยิ่ง ทดสอบได้โดยให้ถือแว่นห่างจากตัวระยะความยาวแขน หลับตาข้างหนึ่ง แล้วใช้ตาอีกข้างมองผ่านเลนส์ ดูอะไรที่เป็นเส้นตรงด้านหน้า เช่น ขอบโต๊ะ ขอบประตู เสา หรือมุมผนังห้อง แล้วค่อยๆ หมุนแว่นช้าๆ ตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา หรือขยับซ้าย-ขวา บน-ล่าง ก็ได้ หากเส้นตรงที่บิดคดเคี้ยวไป โดยเฉพาะตรงกลางเลนส์เลนส์คู่นั้นเป็นเลนส์คุณภาพต่ำ ไม่ควรนำมาใช้งาน

  


ความทนต่อแรงกระแทก


     เลนส์แว่นกันแดดทุกชนิด ควรต้องมีความแข็งแรงกระแทกตามมาตรฐาน แว่นกันแดดส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์พลาสติก ซึ่งแตกร้าวได้ยาก แว่นกันแดดสำหรับนักกีฬาจะเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง และเหนียว แต่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย ดังนั้น หากจะซื้อแว่นประเภทนี้ควรเลือกที่มีสารฉาบผิวป้องกันรอยขีดข่วนด้วย






มาป้องกันนัยน์ตาจากรัสีอุลตร้าไวโอเล็ต (UV) กันดีกว่า


     แว่นกันแดดที่ดีที่สุด ต้องสามารถกรองรังสี UV ได้หมด 100ให้การมองเห็นที่ชัดเจน ภาพไม่บิดเบี้ยว แข็งแรง และไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง การสวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกกลางแจ้งจะให้ความสบายตาและป้องกันอันตรายจากรังสี UV ในระยะยาวได้
     แม้ว่าแว่นกันแดดจะมีคุณภาพดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ถ้าแสงมีความจ้าสว่างกว่าปกติมาก เช่น แสงจากการเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้า อาจทำให้มีอาการปวด เคืองตาอย่างรุนแรงเนื่องจากกระจกตาอักเสบจากรังสี ตาอาจบอดเนื่องจากประสาทตาเสื่อมได้ ต้องอาศัยเลนส์กรองแสงชนิดพิเศษจริงๆ เท่านั้นจึงจะปลอดภัย


แว่นกันแดดช่วยลดความรุนแรงของโรคได้จริงหรือ ?
     โรคที่รังสี UV มีส่วนทำให้อาการรุนแรงขึ้น ได้แก่ โรคจอประสาท ตาเสื่อม ต้อเนื้อและต้อลม ควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง
     ผู้ป่วยที่รับประทานยาบางประเภทที่ไวต่อรังสี (PHOTO-SENSITIZING) จะทำให้ดวงตามีความไวต่ออันตรายจากรังสี UVมากกว่าปกติ ตัวอย่างเช่น เทตตร้าไซคลิน (TETRACYCLINE) ด๊อกซีไซคลิน (DOXYCYCLINE) ฉะนั้นควรสวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง ขณะที่ยังรับประทานยาเหล่านั้นอยู่

Gentle Monster แว่นกันแดดที่ผลิตขึ้นมาเพื่อรูปหน้าของชาวเอเชีย


Gentle Monster - แว่นตากันแดดสุดชิคแบรนด์แฮนด์เมดสัญชาติเกาหลีที่กำลังเป็นที่นิยมในเกาหลี Gentle Monster ที่ตัวแว่นถูกออกแบบในไตล์ Asian Fit เหมาะกับรูปหน้าชาวเอเชีย



ในขณะที่แบรนด์เจนเทิลมอนส์เตอร์นั้นมีความโดดเด่นแบบเฉพาะ 
ด้วยรูปทรงของแว่นกันแดดที่ไม่ได้ดูแตกต่างอะไรจากแว่นสกี 
มันถูกออกแบบให้ส์เหมือนถูกครอบคลุมด้วยอากาศ 
ด้วยเฟรมที่มีความสวยงามและเรียบง่าย 
แม้กระทั่งกรอบแว่นแบบบางอันโด่งดังของเลิฟพันช์นั้นยังดูบอบบางจนเกินไปด้วยซ้ำ 
พวกมันจึงเข้ากับใบหน้าของคุณไม่ได้เท่าไหร่ 
รูปแบบอีกรูปแบบนึงคือทรงกลมแบบเก่า เสมือนดังอนาคตคืออดีต 
ซึ่งประดับด้วยกรอบสีทอง แทนโชคลาภ ซึ่งดูมีน้ำหนักเบา 
ต้นแบบทั้งห้าต้นแบบของ เจนเทิลมอนส์เตอร์นั้นจะได้รับการเปิดตัวในงานพิธีเปิด 
ที่ร้านโอซีฮาวาร์ดสตรีต ทางร้านจะแว่นกันแดดดังกล่าว จำนวน 30 ชุด ไว้ในตู้แสดง 
ไม่ว่าคุณกำลังจะมองหาอะไรอยู่ 
อะไรบางอย่างที่มีสไตล์เรียบง่ายแบบมินิมอลหรือดึงดูดความสนใจ 
คุณจะพบมันด้วยราคาที่เป็นกันเอง 
แว่นกันแดดเจนเทิลมอนส์เตอร์มีราคาอยู่ตำ่กว่าสามร้อยเหรียญสหรัฐ 
จึงทำให้มันเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นแห่งนครนิวยอร์ก 
คุณยังสามารถซื้อมันผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วยที่