หน้าเว็บ

แว่นกันแดดกับยูวี

 ปัจจุบัน แว่นกันแดดมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะใส่แล้วสบายตาพร้อมทั้งช่วยเสริมบุคลิกภาพ เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ แว่นกันแดดสามารถรักษาสุขภาพตาได้ในระยะยาว
     จากการวิจัย พบว่าการโดนแสงแดดจัดนานๆ ในระยะยาวมีโอกาสเกิดโรคตาตามมา เช่น ต้อลมและต้อเนื้อ ต้อกระจก ตลอดจนโรคจอประสาทตาเสื่อม เนื่องมาจากผลของรังสีอุตร้าไวโอเล็ต (UV) ในแสงแดด
      มีหลักฐานพิสูจน์อย่างแน่ชัด คือในปี ค.ศ. 1988 จักษุแพทย์กลุ่มหนึ่งได้ทำการศึกษาวิจัยชาวประมง 838 คน ขณะออกทะเลเพื่อประกอบอาชีพ พบว่ากลุ่มที่มิได้ป้องกันแสงแดด จะเป็นต้อกระจกมากเป็นสามเท่าของชาวประมงที่สวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกปีกกว้าง จักษุแพทย์ ในปัจจุบันจึงแนะนำให้สวมแว่นกันแดดทุกครั้ง หากต้องออกกลางแดดเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเราอยู่ในแนวใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีแดดจัดกว่าส่วนอื่นของโลก



  • เลนส์ที่สามารถกรองรังสีได้



     เป็นคุณสมบัติอย่างแรกที่ต้องพิจารณาเลือกซื้อแว่นกันแดด แม้ว่าเลนส์ธรรมดาทั้งพลาสติกและแก้วจะสามารถกรองรังสี UV ได้บางส่วนแล้วก็ตาม แต่คุณสมบัติดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเติมสารเคมีที่มีคุณสมบัติดูดซับรังสีไว้ในเนื้อเลนส์ขณะผลิตหรือฉาบไว้ที่ผิวเลนส์ภายหลัง เลนส์ของบางบริษัทอาจระบุไว้ว่า สามารถกรองรังสี UV ได้ถึงขนาดความยาวคลื่น 400 นาโนเมตร หมายถึง สามารถกรองรังสีได้ 100% นั่นเอง








  • เลนส์โพลาไรซ์ (POLARIZED LENS)



     มีคุณสมบัติสามารถตัดแสงสะท้อนจากผิวน้ำหรือถนนได้ ทำให้สบายตามากขึ้นเมื่อใช้ขณะเล่นกีฬาทางน้ำหรือขับรถ แต่ไม่มีคุณสมบัติในการกรองรังสี UV อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีเลนส์โพลาไรซ์หลายยี่ห้อที่ฉาบสารเคมีเพื่อดูดซับรังสี UV ไว้ด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เลนส์ที่เลือกซื้อนั้นมีคุณสมบัติดังกล่าวด้วยหรือไม่

  • เลนส์เปลี่ยนสี (PHOTOCHROMIC GLASSES)



     มีคุณสมบัติเปลี่ยนสีได้โดยอัติโนมัติตามระดับความเข้มของรังสี UV คือ เปลี่ยนเป็นสีชาเมื่ออยู่ในที่สว่าง และใสขึ้นเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย การเปลี่ยนสีเข้มจะเกิดขึ้นเต็มที่โดยใช้เวลาประมาณครึ่งนาที ในขณะที่กว่าจะกลับใสเป็นปกติจะต้องใช้เวลาถึง 5 นาที แม้ว่าแว่นชนิดนี้จะกรองรังสี UV ได้ดี แต่ปัญหาจากการใช้เวลานานเกินไปในการปรับสีเมื่อเข้าในที่สลัว และสีของเลนส์ก็ไม่ถึงกับใสเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่เป็นที่แพร่หลาย


คุณสมบัติที่ดีของแว่นกันแดด
  


มีความทึบเข้มของเลนส์ 


     เลนส์บางชนิดย้อมสีเข้มมาก แสงผ่านได้เพียง 2-3ในขณะที่เลนส์บางชนิดให้แสงผ่านได้ถึง 50%ฉะนั้นการเลือกซื้อ จึงจำเป็นต้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน เลนส์ที่ย้อมสีปานกลางจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องอยู่กลางแสงแดดจัดบ่อยๆ ก็ควรเลือกเลนส์ที่เข้มและกรองแสงได้มากแต่ต้องระลึกเสมอว่า ชนิดและความเข้มของสีที่ใช้ย้อมเลนส์ไม่ได้มีผลในการป้องกันรังสี UVเลย เพียงแต่ลดความสว่างจ้า ทำให้สบายตาขึ้นเท่านั้น

  


คุณภาพของการฝนเลนส์ 


     นอกจากคุณสมบัติที่ต้องป้องกันรังสีได้แล้ว การเลือกเลนส์ที่ผ่านการขัดฝนมาอย่างดี เป็นคุณสมบัติที่ควรคำนึงถึงอย่างยิ่ง ทดสอบได้โดยให้ถือแว่นห่างจากตัวระยะความยาวแขน หลับตาข้างหนึ่ง แล้วใช้ตาอีกข้างมองผ่านเลนส์ ดูอะไรที่เป็นเส้นตรงด้านหน้า เช่น ขอบโต๊ะ ขอบประตู เสา หรือมุมผนังห้อง แล้วค่อยๆ หมุนแว่นช้าๆ ตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา หรือขยับซ้าย-ขวา บน-ล่าง ก็ได้ หากเส้นตรงที่บิดคดเคี้ยวไป โดยเฉพาะตรงกลางเลนส์เลนส์คู่นั้นเป็นเลนส์คุณภาพต่ำ ไม่ควรนำมาใช้งาน

  


ความทนต่อแรงกระแทก


     เลนส์แว่นกันแดดทุกชนิด ควรต้องมีความแข็งแรงกระแทกตามมาตรฐาน แว่นกันแดดส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์พลาสติก ซึ่งแตกร้าวได้ยาก แว่นกันแดดสำหรับนักกีฬาจะเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง และเหนียว แต่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย ดังนั้น หากจะซื้อแว่นประเภทนี้ควรเลือกที่มีสารฉาบผิวป้องกันรอยขีดข่วนด้วย






มาป้องกันนัยน์ตาจากรัสีอุลตร้าไวโอเล็ต (UV) กันดีกว่า


     แว่นกันแดดที่ดีที่สุด ต้องสามารถกรองรังสี UV ได้หมด 100ให้การมองเห็นที่ชัดเจน ภาพไม่บิดเบี้ยว แข็งแรง และไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง การสวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกกลางแจ้งจะให้ความสบายตาและป้องกันอันตรายจากรังสี UV ในระยะยาวได้
     แม้ว่าแว่นกันแดดจะมีคุณภาพดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ถ้าแสงมีความจ้าสว่างกว่าปกติมาก เช่น แสงจากการเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้า อาจทำให้มีอาการปวด เคืองตาอย่างรุนแรงเนื่องจากกระจกตาอักเสบจากรังสี ตาอาจบอดเนื่องจากประสาทตาเสื่อมได้ ต้องอาศัยเลนส์กรองแสงชนิดพิเศษจริงๆ เท่านั้นจึงจะปลอดภัย


แว่นกันแดดช่วยลดความรุนแรงของโรคได้จริงหรือ ?
     โรคที่รังสี UV มีส่วนทำให้อาการรุนแรงขึ้น ได้แก่ โรคจอประสาท ตาเสื่อม ต้อเนื้อและต้อลม ควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง
     ผู้ป่วยที่รับประทานยาบางประเภทที่ไวต่อรังสี (PHOTO-SENSITIZING) จะทำให้ดวงตามีความไวต่ออันตรายจากรังสี UVมากกว่าปกติ ตัวอย่างเช่น เทตตร้าไซคลิน (TETRACYCLINE) ด๊อกซีไซคลิน (DOXYCYCLINE) ฉะนั้นควรสวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง ขณะที่ยังรับประทานยาเหล่านั้นอยู่